SPEEDTRANSLATORS บริษัท รับงานแปลภาษาจีน ด่วน คุ้มค่า ได้เร็ว ได้ไว บริการแปลให้ถูกต้องตามไวยากรณ์และมีความคล่องตัวทางภาษา SPEEDTRANSLATORS รับแปลทุกภาษา ให้บริการรับแปลเอกสารเป็นภาษาต่าง ๆ บริการแปลภาษามีหลายประเภทและมุ่งเน้นไปที่ความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าติดต่อ สอบถาม ราคา แปลภาษา ที่ Line: @SPEEDTRANSLATORS โทร: 084-095-8266
ประวัติของภาษาจีน (汉语 / 漢語 – Hànyǔ) 🇨🇳
ภาษาจีนเป็นหนึ่งในภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 3,000 – 5,000 ปี ปัจจุบันเป็นภาษาที่มี ผู้ใช้มากที่สุดในโลก โดยมีผู้พูดมากกว่า 1.4 พันล้านคน
1. ต้นกำเนิดของภาษาจีน 🏯
- ภาษาจีนเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล ภาษาจีน-ทิเบต (Sino-Tibetan languages)
- มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคโบราณ โดยได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมจีนดั้งเดิม
- ระบบการเขียนจีนเริ่มต้นจาก อักษรกระดูกพยากรณ์ (甲骨文 – Jiǎgǔwén) ซึ่งเป็นอักษรจีนที่เก่าแก่ที่สุด พบในยุคราชวงศ์ชาง (Shang Dynasty, 1600–1046 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
2. ยุคพัฒนาของภาษาจีน 📜
🦴 ยุคโบราณ (ก่อนศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช)
- อักษรจีนเริ่มปรากฏใน กระดูกพยากรณ์และสำริด ที่ใช้ในการพยากรณ์ของกษัตริย์
- ลักษณะของอักษรยังเป็นภาพวาดที่แสดงถึงสิ่งของต่างๆ
🏺 ยุคราชวงศ์โจว (1046 – 256 ปีก่อนคริสต์ศักราช)
- พัฒนาเป็น อักษรจ้วน (篆书 – Zhuànshū) ซึ่งมีโครงสร้างที่ชัดเจนมากขึ้น
- ภาษาเขียนมีบทบาทในปรัชญา ขงจื๊อ (孔子 – Confucius) และลัทธิเต๋า
📖 ยุคราชวงศ์ฉินและฮั่น (221 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 220)
- อักษรถูกมาตรฐานโดย จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (秦始皇 – Qín Shǐhuáng)
- เกิด อักษรลี่ซู (隶书 – Lìshū) ซึ่งง่ายขึ้นและใช้กันอย่างแพร่หลาย
- วรรณกรรมเริ่มพัฒนามากขึ้น เช่น บันทึกประวัติศาสตร์ (史记 – Shǐjì) ของซือหม่าเชียน
📜 ยุคราชวงศ์ถังและซ่ง (ค.ศ. 618 – 1279)
- ภาษาเริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้น และกลายเป็นมาตรฐานของการเขียน
- บทกวีจีน (唐诗 – Tángshī) เจริญรุ่งเรือง เช่น บทกวีของ หลี่ไป๋ (李白 – Lǐ Bái) และ ตู้ฝู่ (杜甫 – Dù Fǔ)
- อักษรจีนมีพัฒนาการเป็น อักษรข่ายซู (楷书 – Kǎishū) ซึ่งเป็นต้นแบบของอักษรจีนในปัจจุบัน
⛩️ ยุคราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644 – 1912)
- การออกเสียงของภาษาจีนเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะเสียงวรรณยุกต์
- มีการรวบรวมและพัฒนา พจนานุกรมภาษาจีน
🌍 ยุคปัจจุบัน (ค.ศ. 1912 – ปัจจุบัน)
- รัฐบาลจีนมีการปฏิรูปภาษา โดยกำหนด ภาษาจีนกลาง (普通话 – Pǔtōnghuà) เป็นภาษาทางการของประเทศ
- ในปี 1956 รัฐบาลจีนได้ปฏิรูปอักษรจีน ให้เป็นอักษรจีนตัวย่อ (简体字 – Jiǎntǐzì) เพื่อลดความซับซ้อนในการอ่านและเขียน
- ปัจจุบันภาษาจีนถูกใช้เป็นหนึ่งใน ภาษาราชการของสหประชาชาติ และได้รับความนิยมในการเรียนรู้ทั่วโลก
3. ระบบการเขียนของภาษาจีน ✍️
ภาษาจีนมีเอกลักษณ์ในด้าน ระบบอักษรภาพ (Logograms) ซึ่งแตกต่างจากภาษาอื่นๆ ที่ใช้ตัวอักษรแทนเสียง
📌 อักษรจีนมี 2 ระบบหลัก
- อักษรจีนตัวเต็ม (繁體字 – Fántǐzì)
- ใช้ในไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า
- เช่น 愛 (ài) = รัก, 學 (xué) = เรียนรู้
- อักษรจีนตัวย่อ (简体字 – Jiǎntǐzì)
- ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ และสิงคโปร์
- เช่น 爱 (ài) = รัก, 学 (xué) = เรียนรู้
📌 ระบบพินอิน (拼音 – Pīnyīn)
- เป็นระบบการถอดเสียงภาษาจีนเป็นตัวอักษรโรมัน
- เช่น 你好 (Nǐ hǎo) = สวัสดี, 中国 (Zhōngguó) = ประเทศจีน
- ใช้สำหรับการเรียนรู้การออกเสียงของผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา
4. ลักษณะเด่นของภาษาจีน 🗣️
✅ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา (Tense-free) → ใช้คำบ่งบอกเวลาแทน เช่น 昨天 (zuótiān) = เมื่อวาน
✅ ไม่มีการเปลี่ยนรูปของคำนาม (No Inflection) → คำนามไม่มีพหูพจน์ เช่น 一只猫 (yī zhī māo) = แมวหนึ่งตัว, 很多猫 (hěn duō māo) = แมวหลายตัว
✅ มีวรรณยุกต์ (Tones) → มี 4 เสียงหลัก เช่น mā (แม่), má (ป่าน), mǎ (ม้า), mà (ด่า)
✅ ใช้ตัวอักษรแทนคำ (Logographic Writing) → อักษรแต่ละตัวแทนความหมาย ไม่ใช่แค่เสียง
5. อิทธิพลของภาษาจีนในโลกปัจจุบัน 🌏
- เป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก
- มีอิทธิพลในด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
- เป็นหนึ่งในภาษาราชการของสหประชาชาติ
- ได้รับความนิยมในการเรียนรู้ทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
- คำภาษาจีนมีการยืมไปใช้ในภาษาอื่น เช่น กังฟู (Kung Fu – 功夫), เต้าหู้ (Tofu – 豆腐), ชา (Cha – 茶)
ภาษาจีนเป็นหนึ่งในภาษาที่มีประวัติยาวนานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีระบบอักษรที่เป็นเอกลักษณ์ มีโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่แตกต่างจากภาษาในตระกูลอินโด-ยูโรเปียน การเรียนภาษาจีนอาจจะดูยาก แต่ด้วยความสำคัญของจีนในเวทีโลก ทำให้ภาษานี้เป็นภาษาที่คุ้มค่าต่อการเรียนรู้